สังเกตไหมครับ ว่าทำไมเดี๋ยวนี้โลโก้แบรนด์ดัง ถึงกลายเป็นเรียบ ๆ แบน ๆ ไปหมด?
ย้อนไปสัก 10-20 ปีก่อน แบรนด์ต่าง ๆ นิยมทำโลโก้ให้มีรายละเอียดเยอะ ทั้งในเรื่องลายเส้น สี แสง เงา ไปจนถึงการทำให้เป็น 3 มิติ
แต่ตอนนี้เทรนด์ออกจะกลับตาลปัตร เพราะแบรนด์ที่ว่าเหล่านั้น ได้แห่เปลี่ยนโลโก้ให้เป็นแบบมินิมอล ลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็น ตัดเส้น สี แสง เงาต่าง ๆ ออกไป ให้เหลือแค่รูปร่าง ฟอนต์ หรือสีเรียบ ๆ แค่ไม่กี่สี อย่างที่ภาษานักออกแบบเขาเรียกกันว่า “Flat Logo”
ดูผ่าน ๆ ก็สบายตาดีครับ โมเดิร์นดีด้วย แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากเหตุผลเรื่องความสวยงาม Flat Logo ยังมีข้อดีอื่นอีก
เหตุผลดี ๆ ของการใช้ Flat Logo
- Flat Logo เหมาะกับสื่อดิจิทัล
ในสื่อออนไลน์ มันยากที่จะกะเกณฑ์ได้ว่าโลโก้จะไปปรากฏบนแพลตฟอร์มไหน ขนาดเท่าไร หรือถูกเห็นครั้งละกี่วินาที ดังนั้นโลโก้ที่มีรายละเอียดมากเกิน อาจทำให้คนจำไม่ได้ หรือบางทีก็ดูไม่รู้เรื่องเลยเมื่อถูกย่อเป็นรูปโปรไฟล์จิ๋ว ๆ บนโซเชียล Flat Logo จึงตอบโจทย์มากกว่า มองแวบเดียวก็เข้าใจ
- Flat Logo เหมาะกับจอมือถือ
โลโก้เรียบ ๆ จะแสดงผลได้ดีกว่า โหลดเร็วกว่า และมองเห็นชัดกว่าบนจอมือถือ แม้จอจะสีเพี้ยนไปบ้าง อยู่ในที่แสงจ้า แสงน้อย หรือแสดงผลเป็นขาว-ดำ (Dark Mode) โลโก้ที่เรียบก็ยังได้เปรียบในเรื่องการมองเห็น
- Flat Logo เข้ากับเทรนด์ผู้บริโภค
สมัยก่อนของดีพรี่เมี่ยมมักจะมาในแบบหรูหรา เครื่องประดับฟู่ฟ่า แต่คนเจนใหม่กลับหันมาชอบของเรียบ ๆ แต่มีสไตล์แทน แบรนด์ที่ไม่อยากดูตกยุค ก็เลยหันมาใช้ Flat Logo กันมากขึ้น เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้อายุน้อย
- Flat Logo ทำให้สีและรูปทรงเด่นขึ้น
เมื่อตัดรายละเอียดฟุ่มเฟือยออก เหลือไว้แค่ส่วนประกอบที่สำคัญจริง ๆ ก็ทำให้ส่วนประกอบเหล่านั้นเด่นขึ้น เช่น แบรนด์ Starbucks จากเดิมที่มีสีเขียวกับน้ำตาล ลวดลายเยอะ ก็เหลือแค่สีเขียว กับรูปนางเงือกชัด ๆ ให้คนจำได้ง่ายขึ้น
ถ้าธุรกิจของคุณยังไม่มีโลโก้ หรืออยากออกแบบโลโก้ใหม่ ลองทำแบบมินิมอล ๆ ดูบ้างก็ดีนะครับ เพราะถ้าดูเหตุผลเรื่องประสิทธิภาพบนสื่อออนไลน์ ก็ต้องยอมรับว่าเป็นปัจจัยที่แบรนด์สมัยนี้มองข้ามไปไม่ได้จริง ๆ