โพสต์แทบตาย ไม่มีคนสนใจ เหนื่อยไหมสิ่งที่เธอทำอยู่…
เพราะการทำตลาดออนไลน์ มีรายละเอียดมากกว่าแค่รูปสินค้าสวย ๆ แคปชั่นเก๋ ๆ แต่ต้องมาจากส่วนผสมทั้ง 5 อย่าง ที่ทำงานสอดคล้องกันตั้งแต่ต้นจนจบ
- คอนเทนต์ที่ใช่
นำเสนอสินค้าหรือบริการในรูปแบบที่น่าสนใจ ดึงดูดสายตาผู้อ่าน น่าใช้ น่าลองซื้อ อาจเป็นรูปภาพ บทความ วิดีโอ รีวิว ฯลฯ หรือถ้าไม่ใช่การขายตรง ๆ ก็ต้องให้ประโยชน์กับผู้อ่าน เช่น ให้ความตลก ให้แง่คิด หรือให้ความรู้ โดยที่สามารถเชื่อมโยงกลับมาที่สินค้าหรือบริการได้
- กลุ่มคนดูที่ใช่
เมื่อได้คอนเทนต์แล้ว ต้องส่งคอนเทนต์ไปหาคนดูที่จะสนใจ และได้ประโยชน์จากคอนเทนต์นั้น รวมถึงเป็นกลุ่มคนที่จะซื้อของของเราด้วย ไม่อย่างนั้น ถึงคอนเทนต์จะดีแสนดีแค่ไหน มีคนไลก์คนแชร์เยอะยังไง ก็ยังขายของไม่ได้อยู่ดี ประมาณว่าเขียนรีวิวแชมพูให้คนหัวล้านอ่านนั่นล่ะครับ
- ช่วงเวลาที่ใช่
มีคอนเทนต์ มีกลุ่มเป้าหมาย ก็ต้องเลือกที่จะเผยแพร่คอนเทนต์ออกไปในเวลาที่ถูกต้องด้วย ไม่อย่างนั้นคนก็ไม่อยากซื้อ หรือไม่สามารถจะซื้อได้อยู่ดี เช่น การโพสต์โปรโมทแพ็กเกจทัวร์ต่างประเทศในช่วงโควิด หรือการโพสต์ขายสินค้าแฟชั่นราคาแพงในช่วงที่เงินเดือนยังไม่ออก
- ช่องทางที่ใช่
คนดูของคุณอยู่ที่ไหน? คอนเทนต์ของคุณควรปรากฏบนแพลตฟอร์มใด? ตอบ 2 สิ่งนี้ให้ได้ก่อนที่จะโพสต์นะครับ เช่น ถ้าเราต้องการขายสินค้าให้ผู้สูงวัย ก็ไม่ควรเลือกโพสต์บนทวิตเตอร์ที่มีแต่เด็กวัยรุ่น หรือถ้าต้องการโพสต์บนความยาว ๆ ก็ไม่ควรจะโพสต์ด้วย Instagram ที่เหมาะกับคอนเทนต์รูปภาพ
- งบประมาณที่ใช่
สุดท้ายนี้ จำไว้เสมอว่าการทำการตลาดคือ “การลงทุน” จงใส่ใจกับผลกำไรที่ได้กลับมา งบประมาณที่ใช่นี้ไม่ได้หมายความว่าต้องต่ำหรือสูง แต่ต้องวัดผลเป็นตัวเงินได้ ว่าสุดท้ายต้นทุนที่จ่ายคุ้มค่ากับธุรกิจหรือไม่ บางคนทำการตลาดออนไลน์ด้วยวิธีโพสต์ไปเรื่อย ๆ จ่ายเงินซื้อโฆษณาไปเรื่อย ๆ โดยไม่เคยเอากลับมาคำนวณเลยว่ามันได้ผลจริงไหม รู้ตัวอีกทีก็สิ้นเปลืองเงินไปโดยใช่เหตุซะเยอะแยะ หรือในบางเคสเลือกที่จะไม่จ่ายเงินซื้อโฆษณาเลย ทั้งที่ความจริงอาจเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนหลายเท่า แบบนี้ก็นับว่าน่าเสียดายเหมือนกัน
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่พยายามขายของออนไลน์แต่ยังไม่สำเร็จ ลองเช็กดูหน่อยครับว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ตอบโจทย์ครบ 5 ข้อนี้แล้วหรือยัง
