ผลวิจัยชี้ การทำงานแบบ Multitasking ทำให้เครียดและเศร้าหนักกว่าเดิม

ผลวิจัยชี้ การทำงานแบบ Multitasking ทำให้เครียดและเศร้าหนักกว่าเดิม

ยิ่งทำยิ่งเครียดยิ่งเศร้าอาจเป็นเพราะทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multitasking)

เป็นธรรมดาของเจ้าของธุรกิจ หรือคนทำงาน ที่จะต้องทำงานหลายอย่างไปพร้อมกัน หรือทำงานหนึ่งได้แป๊บเดียวก็ต้องสลับไปทำอีกงาน ฟังดูมันก็จะวุ่นวายหน่อย ๆ แต่ความจริงมันมีผลเสียมากกว่านั้น เพราะการทำงานแบบนี้ติดต่อกันนาน ๆ มีผลทำให้เรารู้สึกเศร้าด้วย

ผลทดลองยืนยัน ยิ่งทำหลายอย่าง สมองยิ่งเศร้า

ผลวิจัยจาก University of Houston ได้นำคนกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มมาทดลอง โดยการให้โจทย์งานเขียน กลุ่มหนึ่งจะปล่อยให้เขียนแบบไม่มีอะไรรบกวน ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งจะมีสิ่งรบกวนและงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้ามาแทรกเป็นระยะ เช่น การตอบอีเมล

ผลปรากฎว่า กลุ่มคนที่ถูกสิ่งอื่นรบกวน มีระดับความเศร้า กังวล และความกลัวที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งความเศร้าเกิดจากการที่ต้องรับงานหลายอย่าง และจำเป็นต้องสลับโฟกัสไปมา ส่วนความกลัว ความกังวลนั้น เกิดจากการหวาดระแวงว่าจะถูกขัดจังหวะอีกเมื่อไร

ถ้าทำงานแบบ Multitasking แค่แป๊บเดียวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าอยู่กับสภาพแวดล้อมแบบนี้ไปนาน ๆ ย่อมมีผลให้ความเครียดกับความเศร้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และถ้าเป็นลักษณะงานที่คนในองค์กรต้องเจออยู่ทุกวัน ก็อาจกระทบถึงบรรยากาศการของทั้งองค์กรได้เลย

ถ้าต้อง Multitask จริง ๆ จะทำยังไงดี?

วิธีแก้แบบง่าย ๆ นะครับ แนะนำให้แบ่งเวลาสำหรับแต่ละงานอย่างเป็นสัดส่วน เช่น กำหนดไปเลยว่าทำงาน A เช้าถึงเที่ยง ค่อยทำงาน B ช่วงบ่าย แทนที่จะตอบอีเมลทันทีที่ได้รับ ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นตอบทุก 1-2 ชม. ถึงจะทำงานสลับไปมา ก็ถือว่าทำในตารางเวลาที่คาดเดาได้ น่าจะช่วยลดความเครียดได้ครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก Inc