เป็นอูฐที่เดินช้าแต่ถึกทน ดีกว่าเป็นยูนิคอร์นที่ฟรุ้งฟริ้งแต่สะดุดล้ม
“ยูนิคอร์น” เป็นคำที่นิยมใช้เรียกธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป (ประมาณ 31,500 ล้านบาท) ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และสร้างสินค้าหรือบริการที่ไม่เคยมีคนทำมาก่อน ยกตัวอย่างสตาร์ทอัพยูนิคอร์นที่โด่งดังก็เช่น Airbnb, Uber, Grab, Traveloka แม้ในโลกนี้จะมีสตาร์ทอัพมากมาย แต่มีแค่ไม่กี่รายที่ไปถึงระดับยูนิคอร์นได้ เรียกได้ว่าเป็นความฝันของคนทำสตาร์ทอัพทั่วโลก
แต่พอเจอโควิด-19 เข้าไป ดูเหมือนว่าการเป็นยูนิคอร์นจะไม่สวยเท่าที่คิดไว้ เพราะสตาร์ทอัพใหญ่ ๆ หลายรายก็เข้าสู่วิกฤตไม่ต่างกับธุรกิจรายย่อย
เช่น Aibnb ที่เป็นสตาร์ทอัพที่ให้บริการจัดหาที่พัก ก็ต้องสูยเสียยอดจองไปถึง 80% ประเมินเป็นความเสียหายกว่า 3 หมื่นล้านบาท แถมยังต้องลอยแพพนักงานถึง 25%
นอกจาก Airbnb ก็ยังมีสตาร์ทอัพอีกหลายราย ที่ต้องเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากเพื่อความอยู่รอด ซึ่งสตาร์ทอัพเหล่านี้ ที่ผ่านมามักจะให้ความสำคัญกับการเร่งลงทุนขยายกิจการ โดยมองข้ามการวางรากฐานที่มั่นคงไป
อย่าเป็น “ยูนิคอร์น” แต่จงเป็น “อูฐ”
Alex Lazarow นักธุรกิจและนักเขียนชื่อดัง เลยเสนอแนวคิดใหม่ ว่าสตาร์ทอัพยุคหลังจากนี้ จะให้ดีไม่ควรเป็น “ยูนิคอร์น” แต่ควรเป็นเหมือน “อูฐ”
🐫 อูฐจะเดินช้า ๆ แต่มั่นคง ด้วยลำแข้งของตัวเอง
หมายถึงการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากภายนอกให้น้อยลง ระดมทุนแค่จำนวนที่พอดีในช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือไม่ระดมทุนจากนักลงทุนเลย เน้นลงทุนด้วยเงินตัวเองเป็นหลัก ควบคุมต้นทุนให้ดี ตั้งราคาสินค้าให้สมเหตุสมผล เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ยั่งยืน มั่นคง อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
🐫 อูฐปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายได้
สตาร์ทอัพที่ดี ต้องปรับตัวได้เร็วถึงเร็วที่สุด สามารถจับสัญญาณความเปลี่ยนแปลงได้ไว และตอบสนองต่อวิกฤตได้เป็นอย่างดี เช่น การรู้จักลดค่าใช้จ่าย เก็บเงินสดไว้เพื่อสิ่งจำเป็น เพื่อให้ธุรกิจก้าวต่อได้ เหมือนกับอูฐที่เก็บสำรองพลังงานเพื่อเดินฝ่าทะเลทราย
🐫 อูฐไม่พึ่งพารายได้ทางเดียว
สตาร์ทอัพและธุรกิจใด ๆ ที่จะรอดจากวิกฤตได้ ควรมีรายได้มากกว่า 1 ทาง สินค้ามากกว่า 1 อย่าง หรือมีฐานลูกค้ามากกว่า 1 กลุ่ม เพื่อเป็นกระจายความเสี่ยง เหมือนอย่างอูฐที่สามารถกินอาหารได้หลากหลาย
อันที่จริงธุรกิจอะไรก็สามารถเป็นอูฐได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องสตาร์ทอัพ เพราะมาถึงจุดนี้ เราน่าจะรู้ซึ้งแล้วว่าความไม่แน่นอนมันน่ากลัวแค่ไหน ธุรกิจจะรอดหรือไม่รอด ไม่ได้วัดกันที่ความเท่ แต่มันวัดกันที่ความถึกทนนี่เองครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก Entrepreneur