เทรนด์กลยุทธ์ธุรกิจค้าปลีกปี 2563 อยากรอดต้องรู้

เทรนด์กลยุทธ์ธุรกิจค้าปลีกปี 2563 อยากรอดต้องรู้

ใคร ๆ ก็ว่าปี 2563 จะเป็นปีสุดโหดหินสำหรับคนทำธุรกิจ ด้วยอุปสรรคด้านเศรษฐกิจทั้งในต่างประเทศ บวกกับความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งธุรกิจค้าปลีกก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่ถูกกระทบอย่างมาก เพราะมีทั้งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ และแพลตฟอร์ม e-Commerce รุกคืบแย่งส่วนแบ่งการตลาด หรือแม้แต่ผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจค้าปลีกด้วยกัน ก็เร่งเสริมความได้เปรียบด้วยนวัตกรรมหุ่นยนต์ ทำให้ร้านค้าปลีกรายย่อยยิ่งอยู่ยาก แค่สินค้าดีกับราคาถูกกว่านิดหน่อยอาจจะยังไม่พอ

แต่อย่าเพิ่งถอดใจไปครับ ร้านค้าปลีกยังไปต่อและโตได้ ถ้าปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้ทัน ว่าแล้วก็มาอัปเดตกันเลยดีกว่า ว่าในปี 2563 นี้ มีเทรนด์กลยุทธ์อะไรที่ร้านค้าปลีกรายย่อยน่าเอามาใช้ได้บ้าง ตามมาดูครับ

ขายปลีกและขายส่งในที่เดียว
แต่ก่อนเรามักเคยชินว่าร้านค้าปลีกกับร้านขายส่งจะแยกเป็นคนละร้าน ไม่ปะปนกัน แต่ตอนนี้จะสังเกตเห็นว่าห้างค้าปลีกเจ้าใหญ่เริ่มหันมาขายเป็นแพ็กเป็นลังกันมากขึ้น หรือแม้แต่ร้านขายส่งก็เริ่มแบ่งขายเป็นชิ้น ๆ กันบ้างแล้ว เพื่อให้ลูกค้าสะดวกที่สุด มาที่เดียว ได้ทั้งซื้อของไปขาย และซื้อของไว้ใช้เอง ยิ่งมีบริการ Delivery ให้ด้วยยิ่งดี

เชื่อมโยงประสบการณ์หน้าร้านกับออนไลน์
สมัยนี้ธุรกิจไหนก็มีเพจ มีเว็บไซต์ ซึ่งส่วนมากก็จะใช้โพสต์โฆษณากับข้อมูลสินค้าต่าง ๆ แต่ที่ดีกว่านั้นคือการเชื่อมโยงประสบการณ์ช้อประหว่างออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วย เช่น กดเล่นกิจกรรมออนไลน์เพื่อรับส่วนลดที่ร้าน เช็คสต๊อกของทางเว็บไซต์ได้ก่อนไปซื้อของจริงที่สโตร์ ไปจนถึงการใช้ QR ติดไว้กับสินค้าในร้าน ให้ลูกค้าสามารถสแกนเพื่อดูข้อมูล บันทึกรายการที่สนใจ หรือแชร์ให้เพื่อน ๆ ดู เมื่อเอาออนไลน์กับออฟไลน์มาผสมกัน ก็จะสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นได้อีกระดับ

เลือกของในร้าน แต่ช้อปผ่านออนไลน์
ตอนนี้มีเทรนด์ที่เรียกว่า Instant Shopping หรือการช้อปแบบด่วนทันใจ แนวคิดก็คือการทำให้ลูกค้าซื้อได้ง่ายและเร็วที่สุด เช่น ภายในร้าน แทนที่ลูกค้าจะต้องเอาตะกร้าสินค้าไปต่อคิวที่แคชเชียร์ ก็เปลี่ยนเป็นแปะ QR ไว้ที่สินค้าแทน เมื่อลูกค้าอยากได้ของชิ้นไหน ก็แค่หยิบมือถือมาสแกนแล้วจ่ายเงินผ่าน Mobile Banking ได้เลย เกิดเป็นร้านประเภท Grab & Go (หยิบของแล้วก็ไป) ขึ้นมา

รับชำระเงินแบบ Cashless ต้องมี
หมดยุคเงินสดล้วนแล้วครับ ตอนนี้แม้แต่ร้านแผงลอยก็มี QR ให้ลูกค้าสแกนจ่ายเงินได้ ห้าบาทสิบบาทก็ไม่ต้องควักเหรียญกันอีกต่อไป สะดวกทั้งลูกค้าทั้งคนขาย ไม่ต้องวุ่นวายหาเงินทอน ในอนาคตข้างหน้าไทยเราอาจกลายเป็น Cashless เหมือนจีน ที่แทบจะไม่มีใครพกเงินสดกันแล้ว

พร้อมจะรักษ์โลกรึยัง?
เวลานี้ใครไม่รักษ์โลกถือว่าเชยครับ เพราะผู้บริโภคใส่ใจเรื่องนี้กันมากกว่าเดิมเยอะ ร้านใหญ่ ๆ พากันประกาศงดแจกถุง ซึ่งร้านค้าปลีกรายย่อยก็สามารถทำได้เหมือนกัน เช่น มีสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าที่ไม่รับถุงพลาสติก เปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งในร้านให้ดีต่อสิ่งแวดล้อม จากที่เคยขายผักผลไม้ห่อพลาสติก ก็อาจจะลองห่อใบตองผูกเชือกกล้วยแทน จัดลดราคาให้ของที่ใกล้วันหมดอายุหรือผักผลไม้ที่มีตำหนิ เพื่อไม่ให้เหลือทิ้งเป็นขยะ เป็นต้น

สำหรับร้านค้าปลีกรายย่อย ทำทั้งหมดนี้ทีเดียวอาจจะเหนื่อยหน่อย ใครไม่ไหวก็อาจจะลองเลือกสัก 1-2 กลยุทธ์ก่อนก็ได้ครับ อย่างอันที่เริ่มได้ง่ายสุดก็จะเป็น 2 ข้อสุดท้าย ไม่ได้ลงทุนอะไรมาก เตรียมตัวไม่กี่วันก็สามารถทำได้เลย แค่นี้ก็สร้างความได้เปรียบได้แล้ว

ยังไง Power SME Thai ก็ขอให้ปี 2563 เป็นปีที่ประสบความสำเร็จของธุรกิจทุกเจ้านะครับ