Trade Shows เวทีปล่อยของที่ผู้ประกอบการไม่ควรพลาด

สำหรับผู้ประกอบการตัวเล็กๆ ที่สร้างธุรกิจด้วยสองมือจากแพชชั่น และเงินทุนเริ่มแรกที่ไม่มากเท่าไหร่ ทำให้การทุ่มงบกับการตลาดเป็นไปได้ยาก แล้วจะทำอย่างไรให้คนรู้จัก จดจำ และใช้สินค้าของเราได้ในปริมาณมากในระยะเวลาสั้นๆและที่สำคัญ ต้องตรงกลุ่มเป้าหมายด้วย แหมฟังดูแล้วไม่ใช่โจทย์ที่ง่ายสักเท่าไหร่

แต่ก็ไช่ว่าจะไม่มีช่องทางที่ตอบโจทย์ซะทีเดียว การจะทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก จดจำ และทดลองใช้สินค้าในระยะเวลาสั้นๆ การออกอีเว้นต์ โดยเฉพาะงานแสดงสินค้าต่างๆที่จัดบ่อยๆ ตั้งแต่งานเล็กๆ ระดับชุมชนไปจนถึงงานใหญ่ๆระดับประเทศโดยมีเป็นสภาหอการค้าเป็นแม่งาน

งานแสดงสินค้าแต่ละงาน จะมีคอนเซ็ปต์เจาะจงเฉพาะกลุ่มเช่นงานมหกรรมบ้านและสวน ก็จะมีผู้ที่สนใจ ต้องการจัดบ้านและสวนออกมาเดินหาแรงบันดาลใจซื้อสินค้า ไปจนถึงมองหาบริการที่ตอบโจทย์เช่นรับจัดสรร ออกแบบบ้าน ตกแต่งภายใน เป็นต้น เรียกได้ว่าฟากของผู้ซื้อได้รับประโยชน์เต็มๆเพราะรวมทุกสิ่งอย่างของสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องมาไว้ในที่เดียว ถมพ่วงมาด้วยสิทธิประโยชน์มากมายที่หาจากหน้าร้านไม่ได้

ผู้ประกอบการ จะได้ประโยชน์อะไรจากการออกงานแสดงสินค้า??

  • ช่องทางโชว์ของ

แน่นอนว่างานแสดงสินค้าเป็นช่องทางที่ดีต่อใจผู้ประกอบการในการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการอย่างมาก เพราะงานนี้ผู้คนมากหน้าหลายตาที่มีความต้องการสินค้าและบริการที่สำคัญพร้อมจ่ายจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาเราที่บูธ และนี่เป็นโอกาสอันดีที่ประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายจำนวนมากได้รู้จักและทดลองใช้สินค้าและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ยิ่งบูธที่เราจัด สามารถถ่ายทอดความเป็นตัวตนของแบรนด์ไปยังผู้บริโภคได้แล้วล่ะก็ โอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะเดินเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าบริการในบูธก็เป็นเรื่องง่าย ดังนั้นการออกแบบและตกแต่งบูธจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต้องโดดเด่น สะท้อนความเป็นแบรนด์ และที่สำคัญปฏิสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ประจำบูธก็เป็นส่วนที่เรียกแขกได้มากเลยทีเดียว

  • นาทีทองโกยยอดขาย

แม้ว่างานแสดงสินค้าส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาจัดงานที่ไม่นานมากเต็มที่ไม่เกิน7 วัน แต่รับรองว่าแต่ละแบรนด์ปั้นยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำแน่นอน หรืออย่างน้อยๆก็ต้องมีออร์เดอร์ในมือสักบิลสองบิลบวกกับมีคนรู้ได้รู้จักและทดลองสินค้าอีกหลายร้อยคนแน่นอน และที่สำคัญลูกค้าที่ได้มามักจะเป็นลูกค้าชั้นดีที่ทำการซื้อขายกันยาวๆในอนาคต

  • เช็คศักยภาพธุรกิจ

เอาจริงงานแสดงสินค้าแบบนี้ เนื่องจากมีพื้นที่จำนวนจำกัด ทำให้ในอุตสาหกรรมย่อมมีการแข่งขันเพื่อช่วงชิงพื้นที่เหล่านี้ ยิ่งงานนั้นใหญ่มากเท่าไหร่ มีคนให้ความสนใจมากเท่าไหร่ และในแต่ละปีเม็ดเงินที่สะพัดในงานยิ่งมาก การแข่งขันช่วงชิงพื้นที่จัดแสดงสินค้าก็ยิ่งมีมากขึ้น เพราะนั้นหมายความว่า ธุรกิจที่จะได้พื้นที่นั้นๆไม่ว่าจะเป็นสินค้าต้นแบบหรือเป็นเพียงคอนเซ็ปต์ไอเดีย ก็ต้องเป็นธุรกิจที่เจ๋งพอตัวเลยทีเดียว หลายครั้งการออกบูธงานแสดงสินค้าเหล่านี้จึงถูกใช้เป็นโอกาสในการเกทับคู่แข่งที่มาและไม่ได้มาออกบูธด้วย

  • ตลาดนัด ลูกค้า  คู่ค้า คู่แข่ง

นอกจากลูกค้ารายเล็กรายใหญ่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายแล้ว อีกหนึ่งบุคคลที่ผู้ประกอบการอาจได้กลับบ้านไปคือ คู่ค้าหรือพันธมิตรใหม่ๆที่สามารถนำมาต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคตอันใกล้ได้ เพราะอย่าลืมว่างานแสดงสินค้าแทบทุกงานไม่ได้มีเฉพาะลูกค้าเท่านั้นที่เข้ามาเดินในงานและยังมี นักธุรกิจ นักลงทุน ที่มองหาช่องทางต่อยอดธุรกิจเช่นกันและงานแสดงสินค้าใหญ่ๆก็ยังเปิดโซนแมทชิ่ง เปิดโอกาสสำคัญให้ผู้ประกอบการได้พบปะพูดคุยกับคู่ค้าทางธุรกิจ และทำสัญญาธุรกิจกับคู่ค้าได้โดยตรงอีกด้วย

หรืออย่างน้อยๆ แม้จะได้คู่ค่าสำหรับต่อยอดธุรกิจ แต่งานนี้คุณจะได้เห็นศักยภาพคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่างแน่นอนว่าตอนนี้คู่แข่งของคุณกำลังทำอะไรอยู่ มีอะไรที่เด่นหรือด้อยของคุณ รวมไปถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณด้วยว่า เขามีพฤติกรรมการใช้จ่ายหรือสินค้าบริการแบบไหน ข้อมูลเหล่านี้คุณสามารถนำไปต่อยอดและคิดกลยุทธิ์ใหม่ๆให้ธุรกิจอีกด้วย

แม้ว่าประโยชน์ที่จะได้กลับมาเป็น ตัวเงิน ยอดจอง พันธมิตร ข้อมูลสำคัญต่างๆแล้ว งานแสดงสินค้าก็อาจเป็นดาบสองคมด้วยเช่นกัน เพราะอย่าลืมว่า ใดใดในโลกนี้มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเงินลงทุนจำนวนไม่น้อยตั้งแต่ออกแบบตกแต่งบูธ ค่าขนส่งขนสินค้ามาที่งาน ค่าเจ้าหน้าที่ประจำบูธในกรณีที่ต้องจ้างเพิ่มเติม รวมไปถึงคู่แข่งที่อาจมีสินค้าและนวัตกรรมที่เด่นกว่าของคุณ ดังนั้นคุณต้องมีวิธีการพรีเซ้นต์ที่น่าสนใจเพื่อเรียกแขกให้ได้

รวมทั้งเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่นมีคนสนใจสินค้าจำนวนมาก แต่สินค้าหมดสต็อก  คุณจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียลูกค้ากลุ่มนี้ไป คุณอาจมีทางเลือกให้ลูกค้าและผู้สนใจเช่น จัดส่งสินค้าภายหลัง ปรือจองในงานได้รับส่วนลด ของอถมหรือแม้แต่บริการจัดส่งฟรี เพื่อรักษาลูกค้าลุ่มนี้ไว้

ดังนั้นเพื่อหาประโยชน์งานแสดงสินค้าได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยคุณต้องมั่นใจก่อนว่า คุณเลือกออกงานแสดงสินค้าที่ตรงกับธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายของคุณจริงๆ