รวม 10 สตาร์ทอัพไทยไอเดียเด็ดในปี 2018 ที่ควรดูไว้เป็นแรงบันดาลใจ

ขณะที่เทรนด์สตาร์ทอัพกำลังเติบโตไปทั่วโลก ประเทศไทยเราก็ไม่น้อยหน้า มีผู้ประกอบการไอเดียกระฉูดมากมายตบเท้าเข้ามาแข่งขันในสนามแห่งใหม่นี้ และแจ้งเกิดกันไปมากมาย สำหรับปี 2561 ที่ผ่านมา ก็มีธุรกิจสตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่น่าสนใจมากมาย มาดูกันว่ามีเจ้าไหนบ้างที่น่าจับตามอง

1. WashBox 24 : ล็อกเกอร์ซักรีด บริการผ่านแอพ

 

บริการซัก-อบ-รีด ที่ใช้ตู้ล็อกเกอร์เป็นหน้าร้าน พร้อมบริการ 24 ชม. เพียงเอาผ้าที่ต้องการซักมาใส่ในล็อกเกอร์ ก็สามารถมารับผ้าสะอาดได้ที่ล็อกเกอร์เดิมภายใน 1 วัน สามารถติดตามสถานะเสื้อผ้าได้ผ่านแอพพลิเคชั่นได้ด้วย ตอบโจทย์ชีวิตชาวหอและมนุษย์คอนโด ปัจจุบัน WashBox 24 กำลังขยายกิจการไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และมีแผนต่อยอดเป็นล็อกเกอร์รับ-ส่งพัสดุได้อีกด้วย

2. Fixzy : แอพหาสารพัดช่าง

แอพพลิเคชั่นที่เชื่อมโยงผู้บริโภคกับช่างไว้ด้วยกัน ทั้งช่างแอร์ ช่างประปา ช่างไฟ ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ดูแลโครงสร้างบ้าน ไปจนถึงบริการทำความสะอาด ดูแลทั้งบ้านง่าย ๆ ในแอพเดียว เลือกจองเวลาได้ ช่างมีความน่าเชื่อถือ สามารถพิจารณาได้จากคะแนนรีวิว เหมาะสำหรับสาว ๆ หรือคนที่ไม่ถนัดงานช่าง ก็สามารถหาผู้ให้บริการมืออาชีพได้ครบวงจรในแพลตฟอร์มเดียว

3. Bellugg : บริการรับส่งสัมภาระ

บริการรับ-ส่งสัมภารระหว่างสนามบิน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ช่วยให้นักท่องเที่ยวประหยัดเวลาในการเดินทาง ไม่ต้องเอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรม หรือเดินทางกลับไปรับกระเป๋าก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน สามารถคลิกจองรับบริการได้ผ่านเว็บไซต์ ได้รับความนิยมมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากในไทยปัจจุบันยังขยายไปถึงประเทศเกาหลี จีน ไต้หวัน และฮ่องกง

4. Lip Lab : ลิปสติกผสมสีได้เอง

ร้านขายลิปสติกแนวใหม่ ให้ลูกค้าสามารถเลือกผสมสี กลิ่น เนื้อสัมผัส และตกแต่งแพ็กเกจจิ้งได้เอง ไม่ใช่แค่ขายสินค้าเท่านั้น แต่ยังให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ และได้ลิปสติกที่มีเพียงแท่งเดียวในโลก

5. Meticuly : กระดูกเทียมพิมพ์สามมิติ

ผู้ผลิตชิ้นส่วนกระดูกเทียมจากเทคโนโลยี 3D Printing ออกแบบและขึ้นรูปให้ใกล้เคียงกับอวัยวะเดิมของผู้ป่วยแต่ละรายมากที่สุด ด้วยการพิมพ์สามมิติ ทำให้ได้กระดูกเทียมที่ปรับแต่งได้อิสระ ตรงกับความต้องการแน่นอน ราคาถูกลง ผลิตได้เร็วขึ้น และไม่ต้องรอชิ้นส่วนทดแทนเป็นเวลานาน

6. B.VER : เช็ควุฒิการศึกษาผ่านบล็อกเชน

แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับเช็ควุฒิการศึกษาและ Transcript ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน อัพเดตข้อมูลกับทางสถาบันการศึกษาแบบเรียลไทม์ ป้องกันปัญหาคนแอบอ้างหรือปลอมแปลงวุฒิการศึกษา เป็นประโยชน์กับทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน จะเปิดให้ใช้งานได้ภายในต้นปี 2562

7. Eat’em all : แอพขายอาหารส่วนเกิน

แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับซื้อขายอาหารส่วนเกินจากร้านสมาชิกในราคาถูก กดสั่งซื้อแบบออนไลน์ รับส่วนลดสูงสุดถึง 70% โดยร้านค้าสามารถเพิ่มรายได้และกำไรจากอาหารที่ขายไม่หมด ลูกค้าได้อาหารดีราคาประหยัด มีให้เลือกซื้อทั้งของคาวของหวาน ไม่เกิดขยะเหลือทิ้ง ดีต่อกระเป๋าเงินและยังดีต่อโลก

8. Cookly : จองคอร์สเรียนทำอาหารทั่วโลก

แอพสำหรับจองและซื้อคลาสเรียนทำอาหารและสัมผัสประสบการณ์ด้านอาหารจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าท่องเที่ยวที่ไหน ก็สามารถเข้าถึงวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นแท้ ๆ ได้

9. Codekit : แพลตฟอร์มสอนเขียนโปรแกรมสำหรับเด็ก

ให้เด็ก ๆ เรียนเขียนโปรแกรม ทำแอพ และทำเว็บไซต์ได้ง่าย ๆ เรียนสนุกในรูปแบบเกม เปิดให้เรียนได้ 24 ชม. ไม่ต้องมีพื้นฐาน มีคอมมูนิตี้คอยให้ความช่วยเหลือเมื่อมีข้อสงสัย สามารถนำไปใช้งานได้จริง เหมาะใช้เป็นสื่อการสอน หรือผู้ใหญ่ที่สนใจก็สามารถเรียนได้เหมือนกัน ตอบโจทย์ตลาดที่กำลังต้องการทักษะด้านโปรแกรมมิ่งมากขึ้น

10. Green Up : ตู้ขายต้นไม้ พูดคุยผ่าน Chatbot

ตู้ขายต้นไม้อัตโนมัติ ไม่ต้องใช้คนขาย สามารถสอบถามข้อมูลต้นไม้ผ่าน Chatbot ได้ ซื้อโดยการสแกน QR Code จ่ายเงินสดที่ตู้หรือโอนเงินออนไลน์ ก็สามารถเปิดเอาต้นไม้ไปได้เลย สร้างประสบการณ์ใหม่ในการซื้อต้นไม้ และนำธรรมชาติมาเข้าใกล้คนรุ่นใหม่มากขึ้น

เห็นแบบนี้บอกเลยว่าไอเดียคนไทยก็เก๋ไม่แพ้ใครในโลกจริง ๆ ใครมีไอเดียธุรกิจสุดเจ๋งอยู่กับตัว อย่ามัวเก็บไว้คนเดียว ได้เวลาลุกขึ้นมาทำให้มันเป็นจริงบ้างแล้วนะครับ สู้!!